Infinix จัดเต็ม เปิดตัวพร้อมขายมือถือเกมมิ่ง NOTE 12 เริ่ม 2 มิ.ย.นี้ กับชิปเซ็ต Helio G96 หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว FHD+ เริ่มต้นเพียง 5,999 บาท 31 พฤษภาคม 2565, กรุงเทพฯ – อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย ล่าสุดเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม NOTE 12 ที่มากับสโลแกน ”Arena Master – ยืนหนึ่ง ทุกสนามรบ” พร้อมจับมือ Free Fire เอาใจเหล่าสาวกคอเกมตัวจริงด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Free Fire Star Clash Presented by Infinix ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
โดยสมาร์ตโฟนรุ่น NOTE 12 โดดเด่นด้วยชิปเช็ตตัวแรง MediaTek Helio G96
ผสานกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว แบบ FHD+ และเสริมประสิทธิภาพเพิ่มหน่วยพื้นที่ความจำถึง 256 GB แรม 8 GB และเพิ่มได้อีก 5 GB รวมสูงสุดได้ถึง 13 GB เพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงได้อย่างเหนือระดับ ในราคาสุดคุ้ม เริ่มต้นที่ 5,999 บาท วางจำหน่ายแบบออนไลน์เท่านั้น ใน 4 ช่องทาง Shopee, Lazada, JD Central และ This Shop เริ่มวันแรกตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
Infinix NOTE 12 กับการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เรียบหรู ทันสมัย มีความโค้งมนจับถนัดมือ พร้อมใช้วัสดุแข็งแรงทนทานเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาและต่อยอดมาจากรุ่น NOTE 11 โดยรุ่นก่อนหน้าได้รับกระแสตอบรับและสร้างยอดขายเป็นอย่างดี
สำหรับรุ่น NOTE 12 นี้ เน้นจับกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานที่ชื่นชอบการเล่นเกมโดยเฉพาะ ชูจุดเด่นด้วยการอัปเกรดหน้าจอให้เป็นแบบ AMOLED ขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตาถึง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซึ่งทำให้ภาพมีสีสันสดใส สว่างคมชัดแม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจ้า จึงช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเสริมศักยภาพการใช้งานแบบไร้ขีดจำกัดด้วยพื้นที่ความจุถึง 256 GB และสามารถขยายพื้นที่แรมจากเดิม 8 GB ได้อีก 5 GB จึงเสมือนได้แรมมากสุดถึง 13 GB พร้อมยังคงมาตรฐานการใช้งานด้วยชิปเซ็ตทรงพลังจาก MediaTek Helio G96 ที่ผสานกับเทคโนโลยี Hyper Engine Gaming ทำให้การใช้งานลื่นไหลเป็นพิเศษตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมวิดีโอ สนทนากับเพื่อน เล่นเกม หรือถ่ายภาพ
ด้านแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้มาถึง 5,000 mAh และชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน โดยรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Force Black) และสีขาว (Snow Fall)
นอกจากนี้ Infinix ยังมีกิจกรรมให้สำหรับลูกค้าและเหล่าสายเกมตัวยง ด้วยการจับมือพันธมิตร ยักษ์ใหญ่อย่าง Free Fire เกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและเป็นกระแสมากในปัจจุบัน จัดกิจกรรม สุดพิเศษ Free Fire Star Clash Presented by Infinix การแข่งขัน Show match ระหว่างเหล่า Youtuber และ Free Fire E-Sport Player ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เวลา 17.00 น.
โดยได้ยกทัพความมันส์มามอบให้กับแฟน ๆ พร้อมชวนให้ทุกคนมาร่วมติดตามความสนุกที่จะเกิดขึ้น และลุ้นรับเสื้อ E-Sport Infinix x Free Fire พร้อมของรางวัลลิมิเต็ดสุดเซอร์ไพรส์อีกมากมาย สามารถดูรายละเอียดและติดตามกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก Infinix Mobile Thailand
iPhone 14 Pro Series จะได้รับคุณสมบัติ หน้าจอเปิดตลอด (AOD)
ว่ากันว่า iPhone 14 Pro Series จะได้รับหนึ่งในคุณสมบัติเฉพาะซีรีส์ที่ก็คือ หน้าจอเปิดตลอด หรือ ค้างไว้ (Always-on display – AOD) (30 พ.ค. 2565) Mark Gurman, นักข่าวสายเทคโนโลยีจาก Bloomberg ได้ทำการเปิดเผยผ่านจดหมายข่าวของเขาว่า iPhone 14 Pro Series จะได้รับคุณสมบัติการเปิดหน้าจอไว้ตลอด หรือค้างไว้ได้ (Always-on display – AOD) รวมถึงสิ่งที่เขาว่าจะโผล่มาในงาน WWDC 2022 (6 มิ.ย. 2565)
โดยในเชิงรายละเอียดของ AOD นั้น มันจะเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของสมาร์ทโฟนรุ่น 14 Pro – 14 Pro Max และหน้าจอ LTPO AMOLED ที่ใช้งานในสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ ซึ่งตัวหน้าจอจะสามารถทำการลดอัตราการตอบสนอง (refresh rate) ขณะอยู่ในสถานะหน้าจอล็อคเพื่อทำการประหยัดพลังงาน ในระหว่างที่ทำการแสดงข้อมูลเช่น เวลา, วันที่ และการแจ้งเตือน
ซึ่ง Apple นั้น ได้มีการประยุกต์ใช้งาน AOD บน Apple Watch ไปแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นบนสมาร์ทโฟน (iPhone) ด้วย แต่ก็ต้องมาดูว่ามันจะเป็นให้เฉพาะสำหรับรุ่น 14 อย่างเดียวหรือไม่ หรืออาจจะแบ่งปันมายังรุ่น 13 ผ่านทางระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไป iOS 16
ทางด้านของ iOS 16 นั้น ก็มีการคาดการณ์ถึงความสามารถของ Wallpapers สำหรับหน้าจอล็อคแบบใหม่ที่มีความสามารถเหมือนกับ Widget และการปรับปรุงอะไรหลาย ๆ อย่าง – เพิ่มเสริมคุณสมบัติอีกด้วย
สก็อต เบลสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ และรองประธานบริหารฝ่าย Creative Cloud ของอะโดบี กล่าวว่า “งานครีเอทีฟมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงาน อะโดบีจึงนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับการทำงานร่วมกัน รวมถึงฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และแอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานบนเว็บเป็นหลัก
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป