รอชม ฝนดาวตกลีโอนิดส์ หรือ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต 17 -18 พ.ย. 63 เห็นได้ทั่วประเทศ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รายงานว่า วันอังคารและพุธนี้ (17-18 พ.ย.) จะมีปรากฎการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ หรือ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต สามารถดูได้เหนือฟ้าไทยทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ความพิเศษของฝนดาวตกครั้งนี้ มีอัตราการตกสูงสุดเฉลี่ย 15 ดวงต่อชั่วโมง มากกว่าฝนดาวตกสัปดาห์ก่อนที่มีอัตราสูงสุดเพียง 5 ดวงต่อชั่วโมง
Narit ได้ให้ข้อแนะนำในการชมฝนดาวตกว่า ควรเลือกสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง และควรใช้เวลาปรับสายตาในที่มืด ประมาณ 30 นาที เพื่อให้สายตาคุ้นเคยกับความมืด
จากนั้นจึงดูด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ช่วย เนื่องจากตาเปล่าสามารถมองเห็นดวงดาวได้ทั่วท้องฟ้า #LeonidsMeteorShower2020
ทั้งนี้ฝนดาวตกลีโอนิดส์ จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 6 – 30 พฤศจิกายน ของทุกปี เกิดจากสายธารเศษฝุ่นของดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P Tempel-Tuttle) ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวหางตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวหางเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า
ทิศทางวงโคจรของฝนดาวตกลีโอนิดส์สวนทางกับทิศทางวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ความเร็วของเม็ดฝุ่นที่เข้ามาเสียดสีกับบรรยากาศโลกมีความเร็วค่อนข้างมาก สูงถึง 71 กิโลเมตรต่อวินาที ฝนดาวตกลีโอนิดส์ ถือเป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งฝนดาวตก”
วัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 จากบริษัท Sinopharm นั้นได้มีการฉีดให้กับผู้คนไปแล้วเกือบล้านราย โดยขณะนี้ยังไม่มีอาการตอบโต้ที่ร้ายแรงแต่อย่างใด โดยตัว วัคซีน นั้นได้รับการพัฒนาจากกลุ่มบริษัท Sinopharm บริษัททางการแพทย์ขนาดใหญ่ของประเทศจีน ได้ถูกใช้งานในการฉีดเพื่อป้องกันเชื้อโรค Covid-19 แก่ผู้คน ซึ่งได้มีการใช้งานไปแล้วเกือบหนึ่งล้านกว่าราย โดยขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่ปฏิกิริยาตอบโต้กับวัคซีนอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด
โดยนาย Liu Jingzhen ประธานบริษัท Sinopharm ได้กล่าวกับสื่อมวลชนในประเทศว่า มีการรายงานว่าพบผู้ที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น และผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการโต้ตอบอยู่ในระดับเบา ยังคงไม่พบผู้ที่มีอาการร้ายแรงแต่อย่างใด
นาย Liu ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบเขตของการฉีดวัคซีนนั้นได้มีการขยายเพิ่มไปอย่างแน่นอน โดยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนไปในระหว่างงานประชุมการส่งออกนานาชาติของจีน (China International Import Expo) เป็นจำนวน 100,000 ราย และผู้คนจำนวน 56,000 รายได้เดินทางออกนอกประเทศภายหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นไม่มีใครที่ติดเชื้อในภายหลัง
นักวิจัยพบ ยา 3 ชนิด ที่อาจรักษา โควิด-19 ได้
กลุ่มนักวิจัยคณะแพทยศาสตร์ UTHSC ร่วมกับ UNM เผยแพร่งานวิจัยผ่าน ACS Pharmacology & Translational Science ว่า ยา ซูโคลเพนทิซอล, เนบิโวลอล และเอโมไดอาควิน อาจใช้สร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้
โดย ซูโคลเพนทิซอล คือยารักษาอาการทางจิต, เนบิโวลอล คือยาลดความดันโลหิต และ เอโมไดอาควิน คือยาต้านมาลาเรีย
“สืบเนื่องมาจากการระบาดครั้งนี้ เราจึงต้องการงานวิจัยคุณภาพสูง ที่สามารถวิเคราะห์โควิด-19 ได้ตรงจุด และหาวิธีการรักษาที่เชื่อถือได้” ส่วนหนึ่งในงานวิจัย ระบุ
เพื่อเปรียบเทียบกับ ไฮโดรซีคลอโรควิน ยาต้านมาลาเรีย ที่นำมาใช้ทดลองรักษาโควิด-19 ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักวิจัยจึงนำตัวยากว่า 4,000 ชนิด มาทดสอบ ผลปรากฎว่ามีเพียง 3 ตัวยาข้างต้น ซูโคลเพนทิซอล, เนบิโวลอล และเอโมไดอาควิน ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน และมีความปลอดภัยมากกว่า
กลุ่มนักวิจัยยังเสนอเพิ่มเติมว่าหากให้ยาเหล่านี้ ควบคู่กับยาเดซิเวียร์ จะทำให้มีประสิทธิภาพการรักษาสูงขึ้น
“การที่คุณมีค้อน 2 อัน มันย่อมมีประสิทธิภาพกว่าค้อนอันเดียว สิ่งที่เราทำคือการมอบค้อนอันที่ 2 ให้แก่วงการวิทยาศาสตร์” ดร. ทูดอร์ โอเปรีย หนึ่งในผู้วิจัย กล่าว
“นี่คือการค้นพบอันน่าทึ่ง และเราจะทำการวิจัยประสิทธิภาพของซูโคลเพนทิซอล, เนบิโวลอล และเอโมไดอาควิน ต่อไป” ดร. ยอนส์สัน กล่าวเสริม
ซึ่งในจดหมายังได้พูดถึง ความสัมพันธ์ มิตรภาพไทย-สหรัฐฯ ที่มีมายาวนานกว่า 200 ปี และไทยเป็นประเทศคู่ภาคีสนธิสัญญาประเทศแรกของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไทยมีความภูมิใจในความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐฯ ที่ดำเนินมาอย่างใกล้ชิดและครอบคลุมทุกมิติ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป